ฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ

ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป

เมนูหลัก

ระบบสมาชิก

สมาชิกทั้งหมด 17 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน

ฝากข้อความ

ชื่อ :

ข้อความ

(ตัวแสดงอารมณ์)

poll

ดูผลการ vote

เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>

พิวรีนในอาหาร

VIEW : 402

โดย ดร. ภัทร

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 51
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 5
Exp : 76%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 43.249.60.xxx

เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 10 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2561 เวลา 16:09:26

พิวรีนในอาหาร
ร่างกายของเราสร้างกรดยูริกได้เองเป็นส่วนใหญ่จากการสลายตัวของสารที่มีชื่อว่าพิวรีน (purine) และได้รับบางส่วนจากอาหาร แต่การรับประทานอาหารโดยที่ไม่ควบคุมปริมาณของพิวรีนเลย จะทำให้ร่างกายได้รับกรดยูริกเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดข้ออักเสบ ปวด บวม แดง การสะสมของกรดยูริก มักจะใช้เวลานานหลายปี การตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้เห็นแนวโน้มของการสะสมกรดยูริกที่จะเกิดข้นได้ โดยปกติผู้ชายควรมีค่าระดับกรดยูริกในเลือดระหว่าง 2.5-8 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร และผู้หญิงควรมีค่านี้ระหว่าง 1.5-6 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
ถ้าตรวจพบว่ามีระดับกรดยูริกในเลือดสูง ผู้ป่วยควรทราบวิธีการควบคุมอาหารเพื่อป้องกันการอักเสบอย่างเฉียบพลัน เพราะถ้าไม่ควบคุมอาหาร และไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ผลึกของกรดยูริกที่มีมากในเลือดจะสะสมตามเนื้อเยื่อต่างๆ และบริเวณข้อต่อ ถ้าเป็นเรื้อรังอาจเกิดเป็นก้อนเกาต์ (tophaceous gout) ซึ่งก้อนนี้จะทำลายกระดูกและข้อให้สึกไปในที่สุด
ลดพิวรีน ลดกรดยูริก
สารพิวรีนเพิ่มกรดยูริก ดังนั้น อาหารที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษก็คืออาหารที่มีพิวรีนสูง ผู้ป่วยโรคเกาต์และผู้ที่มีกรดยูริกสูง โดยเฉพาะในระยะที่มีอาการอักเสบควรกำจัดหรืองดรับประทานอาหารในกลุ่มที่มีพิวรีนสูง เช่น เครื่องในสัตว์ น้ำต้มกระดูก ยอดผัก เพื่อลดภาวะเสี่ยงต่อการกระตุ้นให้เกิดข้ออักเสบเพิ่มขึ้นจากการที่มีกรดยูริกสะสมมากเกิน
ปริมาณผิวรีนในอาหาร
พิวรีนในอาหาร
HonestDocs
[url]https://www.honestdocs.co/table-of-purine-in-food-types[/url]
[url]http://www.honestdocs.co/sitemap[/url]

[ อ้างอิง ]