[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by MAXSITE 2.5.3
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 3 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
ฝากข้อความ
    ชื่อ :
    ข้อความ (ตัวแสดงอารมณ์)
    poll

       คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


    1. ดีมาก
    2. ดี
    3. ปานกลาง
    4. แย่
    5. แย่มาก




      

       เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
    แจก "คนละครึ่ง" ไทยได้ส่วนลด แต่ประเทศนี้แจกหนักกว่า 3 เท่า ผลลัพธ์เป็นอย่างไร  VIEW : 4    
    โดย ขาดเลย

    UID : ไม่มีข้อมูล
    โพสแล้ว : 1
    ตอบแล้ว :
    เพศ :
    ระดับ : 1
    Exp : 20%
    เข้าระบบ :
    ออฟไลน์ :
    IP : 10.10.1.xxx

     
    เมื่อ : จันทร์ ที่ 20 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2568 เวลา 15:36:36    ปักหมุดและแบ่งปัน

    มาตรการแจก 3 ประเทศ vs คนละครึ่งไทย เทียบกันชัดๆ ใครเวิร์คสุด ใครคุ้มกว่ากัน โครงการ คนละครึ่ง กลายเป็นเครื่องมือหนึ่งที่รัฐไทยใช้ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของประชาชนอย่างตรงจุด 123bet ในขณะที่บางประเทศเลือกใช้โมเดลวูเชอร์ (voucher) หรือคูปองที่แจกมากกว่าสามเท่า เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงลึกกว่าแบบเดิม แล้วเมื่อเทียบกันจริงๆ โมเดลแบบไหนได้ผลมากกว่า? บทความนี้รวบรวม 3 กรณีศึกษาจากต่างประเทศ พร้อมเปรียบเทียบกับไทย เพื่อให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่า “แจกเงิน / แจกสิทธิ์” แบบไหนอาจเหมาะกับไทยในช่วงนี้

    1. ไทยแจกคนละครึ่ง – ไต้หวันแจกคูปอง 3 เท่า แบบไหนเวิร์คกว่ากัน
    ในช่วงกลางปี 2020 รัฐบาลของไต้หวันเปิดโครงการ “Triple Stimulus Voucher” ให้ประชาชนจ่ายเงิน NT$1,000 แล้วได้รับคูปองมูลค่า NT$3,000 ซึ่งถือว่าเป็นการ “แจกหนัก” เมื่อเทียบกับโครงการในไทยที่รัฐร่วมจ่ายครึ่งหนึ่งในโครงการคนละครึ่ง ผลลัพธ์ของไต้หวันคือ ได้ผู้ใช้สิทธิมากกว่า 22.89 ล้านคน หรือคิดเป็นราว 96% ของผู้มีสิทธิ์ รัฐประเมินว่าโครงการมีต้นทุนราว NT$51.05 พันล้าน และคาดว่าจะสร้างรายได้ให้ร้านค้าในท้องถิ่นถึงราว NT$100 พันล้าน สำหรับไทย โครงการคนละครึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้เปิดให้ลงทะเบียนหลายเฟส โดยรัฐร่วมจ่ายให้ครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่ด้วยจำนวนเงินที่รัฐสนับสนุนต่อวัน/คน และกลุ่มเป้าหมายที่ครอบคลุม ทำให้ผลกระทบในระดับร้านค้าอาจแตกต่างจากกรณีไต้หวัน

    2. คนไทยได้ส่วนลดกินข้าว – แต่คนเบลเยียมเอาวูเชอร์จ้างแม่บ้าน ใครคุ้มกว่ากัน
    ในเบลเยียมมีระบบ Service Voucher (หรือ “Titres‑services”) ที่ผู้ใช้สามารถจ้างแรงงานภาคครัวเรือน เช่น งานทำความสะอาดบ้าน ดูแลผู้สูงอายุ ฯลฯ โดยซื้อวูเชอร์ในราคาที่ถูกมาก 123bet เมื่อเทียบกับมูลค่าจริงของบริการสถิติระบุว่า มากกว่า 1.2 ล้านครัวเรือนในเบลเยียมใช้วูเชอร์นี้ และในปี 2021 มีวูเชอร์ถูกซื้อถึง 130 ล้านใบ ซึ่งเติบโตขึ้นประมาณ 17% จากปีก่อนหน้าในไทย โครงการคนละครึ่งเน้นไปที่การจับจ่ายใช้สอยทั่วไป เช่น ร้านอาหาร ร้านค้า ซึ่งต่างจากเบลเยียมที่เน้นไปที่ “บริการ” ภายในบ้านมากกว่า

    3. ไทยกำลังแจกเงิน – ฮ่องกงให้ผู้สูงอายุเลือกหมอเองด้วยวูเชอร์ แบบไหนดูแลประชาชนกว่ากัน
    ในฮ่องกงมีโครงการ Elderly Health Care Voucher Scheme ที่รัฐให้วูเชอร์สำหรับผู้สูงอายุ (อายุ 65 ขึ้นไป) เพื่อใช้บริการทางการแพทย์หรือคลินิกเอกชนได้ตามประสงค์ สถิติ ณ ปลายเมษายน 2022 ระบุว่า มีผู้ใช้สิทธิจำนวนกว่า 1.45 ล้านคน หรือคิดเป็นราว 97% ของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด มีผู้ให้บริการร่วมกว่า 10,800 แห่ง และจุดบริการมากถึงประมาณ 30,000 จุด สำหรับไทย แม้จะมีระบบหลักประกันสุขภาพและสวัสดิการต่างๆ แต่ยังไม่มีวูเชอร์ที่เปิดให้ “เลือกบริการแพทย์เอกชนได้เอง” โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุในลักษณะเดียวกันกับฮ่องกง