[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by MAXSITE 2.5.3
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 5 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
ฝากข้อความ
    ชื่อ :
    ข้อความ (ตัวแสดงอารมณ์)
    poll

       คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


    1. ดีมาก
    2. ดี
    3. ปานกลาง
    4. แย่
    5. แย่มาก




      

       เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
    แผลในกระเพาะอาหาร  VIEW : 490    
    โดย ดร. ภัทร

    UID : ไม่มีข้อมูล
    โพสแล้ว : 27
    ตอบแล้ว :
    เพศ :
    ระดับ : 4
    Exp : 21%
    เข้าระบบ :
    ออฟไลน์ :
    IP : 43.249.60.xxx

     
    เมื่อ : อังคาร ที่ 26 เดือน กันยายน พ.ศ.2560 เวลา 16:53:33    ปักหมุดและแบ่งปัน

    แผลในกระเพาะอาหาร
    แผลในกระเพาะอาหาร (Peptic Ulcer) คือ แผลที่เกิดขึ้นบริเวณเยื่อบุของกระเพาะอาหาร หลอดอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น อาการที่พบได้บ่อยคือปวดท้อง มักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร หรือการใช้ยาแก้ปวดต้านการอักเสบในกลุ่มเอ็นเสดเป็นเวลานาน เช่น แอสไพริน ไอบูโปรเฟน เป็นต้น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดอาจทำให้อาการแย่ลงได้ แผลในกระเพาะอาหารพบมากในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป หากปล่อยไว้แล้วไม่ได้รับการรักษาจะทำให้อาการรุนแรงขึ้น และเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้
    อาการของแผลในกระเพาะอาหาร
     
    อาการสำคัญของโรคแผลในกระเพาะอาหารคือ ปวดท้องหรือแสบที่กระเพาะอาหาร มักมีอาการตอนท้องว่างหรือประมาณ 2-3 ชั่วโมงก่อนมื้ออาหาร อาจตื่นกลางดึกจากอาการปวดหรือแสบท้อง อาการจะดีขึ้นเมื่อรับประทานอาหารหรือยาลดกรด และอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยดังต่อไปนี้
     
    แสบร้อนกลางอก
    คลื่นไส้ อาเจียน
    หายใจลำบาก
    รู้สึกจะเป็นลม
    น้ำหนักลดลง
    เบื่ออาหาร
    อาหารไม่ย่อย
    เรอ แน่นท้อง หรือท้องอืด หลังรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
    ควรไปพบแพทย์หากพบอาการข้างต้นหรือมีอาการปวดอีกครั้งหลังรับประทานยาลดกรด และควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนหากอาเจียนเป็นเลือด อุจจาระเป็นเลือด รู้สึกเจ็บแปลบที่ท้อง หรือมีอาการแย่ลง
    สาเหตุของแผลในกระเพาะอาหาร
     
    ในระบบทางเดินอาหารจะมีชั้นเมือก (Mucous) เคลือบอยู่ หากปริมาณของน้ำเมือกและกรดไม่สมดุลกัน จะทำให้เกิดแผลที่เยื่อบุของกระเพาะอาหาร หลอดอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้นได้ โรคแผลในกระเพาะอาหารมีหลายสาเหตุดังต่อไปนี้
     
    เชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร (H. Pylori) จะอาศัยอยู่ในเยื่อบุกระเพาะอาหาร เป็นสาเหตุให้เกิดการระคายเคืองและเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้เกิดความเสียหายจากกรดในกระเพาะอาหาร ติดเชื้อได้กับทุกวัย แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเพราะเหตุใดผู้ป่วยบางรายจึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไรได้มากกว่าผู้ป่วยรายอื่น ๆ
    การใช้ยาแอสไพริน (Aspirin) ไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) นาโปรเซน (Naproxen) รวมถึงยาแก้ปวดต้านการอักเสบในกลุ่มยาเอ็นเสด (NSAIDs) อื่น ๆ เป็นเวลานาน ทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณเยื่อบุกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็ก โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้ที่ใช้ยารักษาโรคข้อเข่าเสื่อม รวมถึงการใช้ยาแก้ปวดต้านการอักเสบในกลุ่มเอ็นเสดร่วมกับยาชนิดอื่น ๆ ได้แก่
    ยาสเตียรอยด์ (Steroids)
    ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น เฮพาริน (Heparin) วอร์ฟาริน (Warfarin)
    ยารักษาโรคซึมเศร้า (Selective Serotonin Reuptake Inhibitors: SSRIs) เช่น ไซตาโลแพรม (Citalopram) ฟลูออกซิทีน (Fluoxetine) ฟลูวอกซามีน (Fluvoxamine) พาร็อกซีทีน (Paroxetine) เซอร์ทราลีน (Sertraline)
    ยารักษาโรคกระดูกพรุน เช่น อะเลนโดรเนท (Alendronate) ไรซีโรเนต (Risedronate)
    ปัจจัยอื่น ๆ และพฤติกรรมบางอย่าง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ เช่น
    การสูบบุหรี่
    การดื่มแอลกอฮอล์
    การรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ด
    ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
    พบได้มากขึ้นในผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร
    ผู้ที่มีระดับแคลเซียมในเลือดสูง (Hypercalcemia)
    แผลในกระเพาะอาหาร
    Honestdocs
     [url]https://www.honestdocs.co/stomach-ulcer-acid[/url]
     [url]https://www.honestdocs.co[/url]