[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by MAXSITE 2.5.3
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 5 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
ฝากข้อความ
    ชื่อ :
    ข้อความ (ตัวแสดงอารมณ์)
    poll

       คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


    1. ดีมาก
    2. ดี
    3. ปานกลาง
    4. แย่
    5. แย่มาก




      

       เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
    ผื่นคันตามตัวเกิดจากอะไร  VIEW : 479    
    โดย ดร. ภัทร

    UID : ไม่มีข้อมูล
    โพสแล้ว : 27
    ตอบแล้ว :
    เพศ :
    ระดับ : 4
    Exp : 21%
    เข้าระบบ :
    ออฟไลน์ :
    IP : 43.249.60.xxx

     
    เมื่อ : อังคาร ที่ 26 เดือน กันยายน พ.ศ.2560 เวลา 16:55:41    ปักหมุดและแบ่งปัน

    ผื่นคันตามตัวเกิดจากอะไร
    ในกรณีที่แยกอาการคันจากโรคภูมิแพ้ของผิวหนังไม่แน่ชัด ก็อาจเรียกรวมๆ ว่า โรคผิวหนังอักเสบ (eczema) ซึ่งหมายถึงโรคผิวหนังที่ทำให้ผิวหนังแห้งและคันอย่างรุนแรง ที่อาจทำให้ผู้ป่วยเกามากจนกระทั่งเลือดออก เป็นแผล และอาจติดเชื้อได้ในที่สุด ผื่นที่เกิดขึ้นจะเป็นๆ หาย ๆ โดยอาการอาจดีขึ้นหรือแย่ลงในบางฤดูหรือในบางช่วงของวัน ตอนกลางคืนอาการคันอาจรุนแรงมากจนทำให้ผู้ป่วยบางคนนอนไม่หลับ หรือต้องตื่นขึ้นมาเกาทั้งคืน
    อาการของโรคผิวหนังอักเสบอาจแตกต่างกันในแต่ละคน แต่มักจะเกิดผื่นขึ้นคันตามข้อศอกและข้อพับบริเวณขา นอกจากนี้ ยังเกิดขึ้นบริเวณมือ เท้า แขน ขา ลำตัว หนังศีรษะ หน้า ใบหู ในกรณีที่มีอาการรุนแรงจะเป็นผื่นคันไปทั้งตัว ลักษณะที่สำคัญคือ ผิวหนังจะแห้งเป็นขุย และอักเสบแดงบวม เมื่อเป็นซ้ำๆ เป็นเวลานานๆ ผิวหนังจะหนา หยาบกร้าน และเปลี่ยนสีจากแดงเป็นเทาอมน้ำตาล เนื่องจากการเกาและเสียดสีเป็นเวลานาน บางครั้งผิวอาจจะแตก หรือเป็นเกล็ดและตกสะเก็ด รวมทั้งมีสีซีดลง ถ้าเกิดเป็นแผลติดเชื้ออาจมีอาการปวดแสบปวดร้อน เนื่องจากผิวหนังที่แห้งจนเป็นขุย ถ้าเป็นบริเวณข้อพับ บริเวณข้อศอกหรือข้อเข่า อาจจะทำให้ข้อต่อยึดจนแทบจะงอพับไม่ได้
    ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคผิวหนังอักเสบ แต่เชื่อว่าเกิดจากปฏิกิริยาหรือการเปลี่ยนแปลงของภูมิคุ้มกันทำให้เกิดเป็น โรคภูมิแพ้ชนิดนี้ขึ้น เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์อย่างหนึ่ง ถ้าผู้ป่วยมีคุณพ่อหรือคุณแม่คนใดคนหนึ่งเป็นโรคนี้ โอกาสที่ผู้ป่วยจะเป็นโรคนี้มีร้อยละ 60 ถ้าทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นโรคนี้โอกาสที่ผู้ป่วยจะเป็นโรคนี้มีถึงร้อยละ 80 นอกจากนี้ ถ้าคุณพ่อหรือคุณแม่คนใดคนหนึ่งเป็นโรคหอบหืด ผู้ป่วยก็ยิ่งมีโอกาสเป็นโรคนี้เพิ่มขึ้นอีก
    โรคผิวหนังอักเสบก็คล้ายกับโรคภูมิแพ้ชนิดอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่ผู้ป่วยได้ไปสัมผัสกับสิ่งที่ทำให้เกิดผื่นคันที่ เรียกว่า "ตัวกระตุ้น" เข้า ตัวกระตุ้นหรือสารก่อภูมิแพ้นี้จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวผู้ป่วย เช่น ที่บ้าน ที่โรงเรียน ที่ทำงานหรือสถานที่อื่นๆ ที่ผู้ป่วยไปมีกิจกรรมอยู่ สารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้นี้ได้แก่ ไรฝุ่น เชื้อรา ละอองเกสรดอกไม้ ขนสัตว์ รวมทั้งอาหารบางชนิด
    ผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบต้องหลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้อย่างเด็ด ขาด ยิ่งถ้ารู้แน่ชัดว่าแพ้อะไรยิ่งห้ามสัมผัสโดนสิ่งนั้น เมื่อผิวหนังได้สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้หรือตัวกระตุ้น ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะปล่อยสารเคมีตามธรรมชาติที่มีการสร้างไว้ แล้วออกมาหลายอย่าง เช่น สารฮีสตามีน (histamine) สารแบรดีไคนิน (bradykinin) สารเคมีเหล่านี้จะทำหน้าที่ป้องกันผิวหนังจากสารก่อภูมิแพ้ ที่ระบบภูมิคุ้มกันรู้สึกว่าจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ทั้งนี้เนื่องมาจากระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยมีความไวต่อสารเหล่านี้มาก เกินไป สารเคมีต่างๆ ที่หลั่งออกมานี้ทำให้เกิดอาการคัน เกิดผื่น และเกิดอาการบวมที่ผิวหนัง สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคผิวหนังอักเสบ สารเคมีเหล่านี้จะสลายไปในเวลาไม่นาน แต่สำหรับผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบ สารเคมีเหล่านี้จะยังคงอยู่ร่วมกับเซลล์ภูมิคุ้มกันบริเวณผิวหนัง จะยิ่งผลิตเคมี เหล่านี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดอาการคันอยู่ตลอดเวลา อาการจะยิ่งแย่ลงถ้ายิ่งเกาหรือถูบริเวณที่คัน ยิ่งเกามากเท่าไหร่สภาพผิวหนังก็ยิ่งแย่ลง และกระตุ้นให้เซลล์ผลิตสารเคมีเพิ่มขึ้น ทำให้ยิ่งคันและยิ่งเกามากขึ้น กลายเป็นวงจรแห่งการคันและเกา อันเป็นวงจรแห่งความทุกข์ทรมานมากยิ่งขึ้นและยากจะหยุดได้
    นอกจากตัวกระตุ้นหรือสารก่อภูมิแพ้แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่ยิ่งทำให้อาการผิวหนังอักเสบ อาการคันบวมแดงยิ่งรุนแรงขึ้นหรือเป็นมากขึ้น ที่เรียก "สารระคายเคือง (irritant)" สารระคายเคืองไม่ใช่ตัวกระตุ้น แต่เป็นตัวเสริมให้อาการเป็นมากขึ้น ตัวอย่างของสารระคายเคือง ได้แก่ ผ้าขนสัตว์ ผ้าเนื้อหยาบ ผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม สิ่งต่างๆ ที่มีกลิ่นหอม เช่น น้ำหอม โคโลญ น้ำยาระงับกลิ่นกาย โลชั่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางชนิด สี สารคลอรีนในน้ำ หรือสระว่ายน้ำ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว อาหารบางชนิด ควันบุหรี่
    ดังนั้น ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ทำจากขนสัตว์ เพราะเนื้อผ้าที่หยาบหรือสากจะระคายต่อผิวหนัง อย่าใช้ผ้าห่มที่ทำจากขนสัตว์ หลีกเลี่ยงการสวมเนื้อผ้าที่ทำให้เกิดอาการคัน หรือผ้าเนื้อหยาบ เช่น ผ้าโพลีเอสเตอร์ ไนล่อน และอะครีลิก ควรใส่เสื้อผ้าที่เนื้อผ้านิ่มและใส่สบาย เช่น ผ้าฝ้าย อย่าสวมเสื้อผ้าที่มีตะเข็บแข็งๆ ที่จะนำมาใส่เพื่อให้เนื้อผ้ามีความอ่อนนุ่มและขจัดสารเคมีที่ตกค้างอยู่บน ผ้า ใช้ผงซักฟอกที่ไม่มีน้ำหอมและผงซักฟอกสำหรับผ้าขาวและล้างน้ำอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อขจัดคราบสบู่ที่ตกค้าง
    นอกจากการหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นและสารระคายเคืองแล้ว อาการคันอาจเกิดจากปัญหาผิวแห้ง เนื่องจากหน้าที่หลักของผิวหนังคือการปกป้องร่างกายจากสิ่งสกปรกต่างๆ เชื้อโรคหรือสารเคมีที่จะเป็นอันตรายต่ออวัยวะภายในของเรา ผิวหนังจะทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ ผิวหนังจะต้องมีความชุ่มชื่นและความยืดหยุ่น ผิวหนังของผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบจะมีความบกพร่องที่สำคัญคือ ไม่สามารถเก็บความชุ่มชื่นได้ เมื่อผิวหนังแห้ง ผิวหนังจะเปราะบางและอาจถึงขั้นแตกเป็นรอยหรือเป็นแผล ทำให้สิ่งแปลกปลอมภายนอกเข้าไปในร่างกายได้ง่าย ทำให้ผิวหนังเกิดความระคายเคือง และเกิดผื่นคันในที่สุด
    วิธีป้องกันผิวแห้งที่ดีที่สุดคือ การใช้ครีมบำรุงผิวเป็นประจำ ควรใช้ครีมบำรุงผิวที่มีความเข้มข้นหรือมียาบำรุงผิวตามที่แพทย์ผิวหนังแนะ นำ เพราะแต่ละคนมีความแห้งของผิวหนังไม่เท่ากัน มีสภาพแวดล้อมหรือโดนสิ่งต่างๆ ไม่เหมือนกัน ไม่ควรใช้โลชั่นซึ่งผสมน้ำในปริมาณมากหรือผสมแอลกอฮอล์ เพราะจะให้ผิวยิ่งแห้ง ควรใช้ครีมบำรุงผิวตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกว่าผิวแห้ง หรือทันทีที่อาบน้ำเสร็จ การอาบน้ำจะเป็นการช่วยรักษาโรคผิวหนังอักเสบ เพราะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหนัง และขจัดเชื้อโรคและสารระคายเคืองต่างๆ แต่ต้องใช้ครีมบำรุงผิวทันที หลังจากอาบน้ำเสร็จ เพราะมิฉะนั้นผิวจะแห้งยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้อาการผื่นคันแย่ลง ขั้นตอนการปฏิบัติคือ ทันทีที่อาบน้ำเสร็จค่อยๆ ซับน้ำออกจากตัวด้วยผ้าขนหนู แล้วทิ้งให้ผิวหนังชื้นเล็กน้อยก่อนที่จะชโลมด้วยครีมบำรุงผิว เพื่อช่วยรักษาให้ผิวหนังชุ่มชื่น
    ในการอาบน้ำอย่าใช้สบู่ก้อน เพราะสบู่ก้อนจะขจัดน้ำมันที่มีอยู่ตามธรรมชาติบนผิวหนังซึ่งช่วยรักษาความ ชุ่มชื่นให้หมดไป ยกเว้นว่าคราบสกปรกนั้นล้างด้วยน้ำเปล่าไม่ออก ควรใช้สบู่เหลวสูตรอ่อนโยนต่อผิวหนังและบำรุงผิว ถ้ามีรอยโรคที่ผิวหนังมาก ควรใช้สบู่ทำความสะอาดเฉพาะส่วนที่จำเป็นและล้างออก น้ำที่ใช้ควรเป็นน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น อย่าใช้น้ำร้อน เพราะน้ำร้อนจะระเหยออกจากผิวอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวแห้ง หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันหรือผงขัดผิวที่มีกลิ่นหอมอาบน้ำ เพราะจะทำให้อาการผื่นคันแย่ลง ควรใช้เวลาในการอาบน้ำประมาณ 5-10 นาที เพราะถ้านานกว่านี้ความชุ่มชื่นบนผิวหนังตามธรรมชาติจะถูกชะล้างออกไป ควรใช้แชมพูอ่อนและสระผมที่อ่างล้างหน้าหรืออาบน้ำโดยใช้ฝักบัวจะดีกว่าการ อาบน้ำในอ่างอาบน้ำ เพื่อที่ฟองแชมพูจะได้ไม่ติดอยู่ที่ผิวหนังนาน เพื่อลดโอกาสที่สารเคมีจะระคายผิวหนังได้
    เนื่องจากผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบจะมีผิวหนังที่บางมาก ผู้ป่วยบางรายสังเกตว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของผิวหนังอย่าง กะทันหัน เช่น ออกจากที่ทำงานที่เป็นห้องแอร์ ออกไปรับประทานอาหารกลางวันนอกตึกที่มีแดดร้อนเปรี้ยง หรือตอนกลับเข้ามาในตึกหรือห้องทำงานจากข้างนอกจะมีผื่นขึ้น อากาศที่ร้อนและหนาวมีส่วนทำให้โรคผิวหนังอักเสบกำเริบ อากาศที่ร้อนและแห้งทำให้ความชุ่มชื่นบนผิวหนังหมดไป ในฤดูร้อนที่อากาศชื้น เหงื่อจะทำให้ผิวหนังเกิดความระคายเคืองและเกิดผื่นคัน ดังนั้น พยายามอยู่แต่ในบ้านหรือในสำนักงาน ในช่วงที่มีอากาศร้อน พยายามให้มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิกะทันหันให้น้อยที่สุด ถ้าเหงื่อเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังก็ควรหลีกเลี่ยงการ ออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่กำลังมีอาการผื่นคัน สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ควรใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายซึ่งระบายอากาศได้ดี ทำให้เหงื่อออกน้อยและระเหยออกจากผิวหนังได้เร็ว ควรรีบอาบน้ำทันทีหลังจากออกกำลังกายเพื่อชะล้างเหงื่อไคลโดยเร็ว สำหรับการออกกำลังกายกลางแจ้ง ควรใช้ครีมกันแดดที่มีคุณภาพดี ไม่ใช้ชนิดที่ทำให้ผิวแห้ง
    ผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบ บางรายจะสังเกตว่าเวลาที่มีความเครียด เช่น เวลามีความกังวล มีความเหนื่อยล้า มีความรู้สึกหงุดหงิด หรือหวาดกลัว อาการผื่นคันที่ผิวหนังจะเป็นมากขึ้น อารมณ์หรือความเครียดเหล่านี้ทำให้ผิวหนังเปลี่ยนสีเป็นสีแดง และคันมากขึ้น เนื่องจากเวลาที่มีความเครียด เลือดจะถูกสูบฉีดไปยังผิวหนังมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ดังนั้น การหลีกเลี่ยงความเครียดต่างๆ ทั้งทางร่างกายและจิตใจเท่าที่จะทำได้ เช่น การนอนหลับอย่างเพียงพอ ไม่อดนอน ไม่ตรากตรำ มองโลกในแง่ดี มีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ หลีกเลี่ยงจากเหตุการณ์หรือปัญหาที่จะมารบกวนจิตใจ มีการจัดสรรเวลาและวางแผนให้ดีสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกรีบเร่งหรือร้อนรน มีการหยุดพักงานเป็นช่วงๆ มีการไปเปลี่ยนบรรยากาศหรือทำงานอดิเรกที่ชอบเพื่อให้มีจิตใจแจ่มใสหรือมี การเล่นกีฬาเพื่อช่วยลดความเครียด แต่อย่าจริงจังกับผลแพ้ชนะเกินไป วิธีหลีกเลี่ยงความเครียดเหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้เพื่อลดการกำเริบของโรค ผิวหนังอักเสบ รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ อีกมาก
    ผิวหนังที่มีสุขภาพดีจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียเข้า ไปในร่างกาย แต่ผิวหนังของผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบจะง่ายต่อการติดเชื้อมากกว่าผิวหนัง ของคนทั่วไป การติดเชื้ออาจมาจากบริเวณผิวหนังเอง เช่น จากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนผิวหนังหรือตามซอกเล็บ เวลาที่มีการคันและเกาจนผิวหนังเป็นแผล จะเป็นการเปิดทางให้เชื้อแบคทีเรียเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายและทำให้เกิดการ ติดเชื้อได้ นอกจากนี้ การติดเชื้อในส่วนอื่นของร่างกาย เช่น โรคไข้หวัด โรคเริม โรคงูสวัด เชื้อราบนเท้า ก็สามารถกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดผื่นคันได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น เมื่อรู้สึกว่าผิวหนังมีอาการร้อนแดงขึ้น หรือมีตุ่มขึ้นบนผิวหนัง มีผื่นขึ้นหรือมีหนอง หรือเป็นแผลติดเชื้อ มีกลิ่นเหม็น ควรรีบไปพบแพทย์
    ปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยากมากสำหรับผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบคือ อาการคันมากทำให้ต้องเกา บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบเผลอเกาโดยไม่รู้ตัว ปกติแล้วคนเราจะเกาเมื่ออยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรจะทำ ดังนั้น การพยายามทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นเพื่อไม่ให้ตัวเองว่าง โดยเฉพาะกิจกรรมที่ต้องใช้มือ จะทำให้เกาน้อยลง นอกจากนี้ การสวมเสื้อผ้ามิดชิดก็จะเป็นการปกป้องผิวหนังไม่ให้เผลอเกาไปถูกได้ ส่วนเวลากลางคืนซึ่งมักเป็นเวลาที่คันมาก ถ้าอาการคันถึงกับทำให้นอนไม่หลับ ก็อาจจะลองใช้ผ้าชุบน้ำเย็นปิดบริเวณที่คันสักพักก่อนทาครีมบำรุงผิวที่เก็บ เอาไว้ในตู้เย็น และพยายามตัดเล็บให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือถ้ายังไม่พอ อาจใส่ถุงมือที่ทำจากผ้าฝ้ายที่มีน้ำหนักเบา เพื่อช่วยป้องกันเล็บและผิวหนัง สุดท้ายก็คงต้องอาศัยยาแก้คันแก้แพ้ รับประทานก่อนนอน เพื่อช่วยลดอาการคันและอาจทำให้นอนหลับสบายขึ้น
     
    ผื่นคันตามตัวเกิดจากอะไร
    Honestdocs
     [url]https://www.honestdocs.co/rash-symptom-allergy[/url]
     [url]https://www.honestdocs.co[/url]